ทำไม ER ของสัตว์ถึงมีราคาแพง (Pet Economics 101)

2024 ผู้เขียน: Daisy Haig | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2024-01-11 15:43

วันหยุดสุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้าอาจเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คึกคักที่สุดในห้องฉุกเฉินสำหรับสัตว์เลี้ยงทั่วสหรัฐอเมริกา จึงไม่แปลกใจเลยที่ Black Friday เวอร์ชันร้านค้าปลีกควรนำไปใช้กับสิ่งอำนวยความสะดวกในกรณีฉุกเฉินสำหรับสัตว์ส่วนใหญ่ด้วย ช่วงเทศกาลวันหยุดคือเมื่อเราเริ่มแสดงผลกำไรสำหรับปีในที่สุด ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในสถานที่เหล่านี้

เหตุผลสำหรับการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นของ ER ในช่วงเวลานี้ของปีควรจะชัดเจน: โรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปปิดทำการ ผู้คนต่างอยู่บ้านพร้อมสัตว์เลี้ยงเพื่อดูพวกมันป่วย และสัตว์เลี้ยงก็เหมือนกับเจ้าของของมัน กินอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทางเดินอาหารของพวกมันนั้นคุ้นเคยน้อยกว่าเจ้าของ อ่าน: ท้องร่วงและอาเจียน อาจเป็นตับอ่อนอักเสบ (โรคนี้เรียกอีกอย่างว่า "ไส้ในขยะ")

สาเหตุที่ทำให้สถานที่เหล่านี้มีราคาแพงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ลูกค้าส่วนใหญ่ของฉันที่ถูกบังคับให้ไปสถานที่เหล่านี้ในขณะที่ฉันไม่อยู่ ไม่ค่อยพอใจกับมันนัก แม้ว่าพวกเขาจะพอใจกับการดูแลของ ER ที่ฉันโปรดปรานเกือบเท่าๆ กัน แต่ก็ไม่ค่อยพอใจกับการเรียกเก็บเงิน

ราคาสองเท่า? ทริปเปิ้ล? อย่างจริงจัง?

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมาของฉันเคยทำงานสถานพยาบาลฉุกเฉินด้านสัตวแพทย์ ฉันเข้าใจดีว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่า ER ทุกครั้งจะคุ้มกับค่าใช้จ่าย (ฉันได้พบกับผู้แพ้ที่ร้ายแรงในสมัยของฉัน) แต่คนที่ทำงานได้ดีในกรณีที่ไม่มีสัตวแพทย์ของคุณสมควรได้รับค่าเบี้ยประกันภัยอย่างแน่นอน พิจารณาคุณสมบัติหกประการเหล่านี้:

1. ชั่วโมง

มีเพียงไม่กี่คนที่ชอบทำงานในช่วงเย็น ข้ามคืน และช่วงสุดสัปดาห์ มันไม่สนุกเลย และยิ่งคุณอายุมากขึ้น อย่างที่ฉันได้มีโอกาสเรียนรู้ ยิ่งทำงานดีตอนตี 3 มากขึ้น เงินเดือนต้องดีพอจริงๆ เพื่อให้พนักงานสามารถหาเงินดีๆ ได้ โดยทำงานเพียง 3 กะข้ามคืนต่อสัปดาห์ มากกว่านั้นและพนักงานมักจะเหนื่อยเกินไป เนื่องจากการจ่ายเงินเดือนเป็นค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโรงพยาบาลสัตว์ คุณสามารถดูได้ว่าเบี้ยประกันที่เจ้าหน้าที่ ER ต้องการจะแปลโดยตรงไปสู่การดูแลที่มีราคาแพงกว่าได้อย่างไร

2. สถานะที่เชื่อถือได้หลังจากชั่วโมง

โรงพยาบาลไม่ควรเป็นสถานที่เปิด-ปิด ควรเป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้ และนั่นหมายถึงการจัดหาพนักงานอย่างเต็มที่เป็นการถาวร สัตวแพทย์ 365 วันต่อปี ช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่คอกสุนัขเพื่อให้ตรงกับความต้องการเปิด-ปิดสำหรับการดูแลสัตว์แพทย์นอกเวลาทำการ มันแพง!

3. ความพร้อมใช้งานเต็ม 24/7

นี่ไม่ใช่เพียงสถานที่หลังเวลาทำการ (แม้ว่าบางแห่งก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน) สถานที่โปรดของฉันไม่ได้ทำให้เจ้าของของฉันปรากฏตัวเวลา 7.00 น. เพื่อย้ายสัตว์เลี้ยงของพวกเขากลับไปหาสัตวแพทย์ประจำ ความต่อเนื่องของการดูแลเป็นสิ่งที่มีค่า

4. พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี

ไม่ใช่แค่พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมแต่มีใบอนุญาตและได้รับการรับรอง ช่างเทคนิคที่ผ่านการรับรองหมายความว่าสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับการดูแลที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ คุ้มค่าทุกเพนนีในกรณีฉุกเฉินร้ายแรง

5. มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตวแพทย์ประจำ

หากโรงพยาบาลฉุกเฉินของคุณรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสัตวแพทย์ประจำของคุณ เพื่อให้การดูแลต่อเนื่องและผลประโยชน์สูงสุดของสัตว์เลี้ยงของคุณมีความสำคัญเหนือกว่าการคิดระยะสั้นซึ่งบางครั้งมีอิทธิพลต่อผู้ป่วยเพียงครั้งเดียว การรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสัตวแพทย์ประจำหมายถึงการเก็บบันทึกที่ดีขึ้น การโทรศัพท์พิเศษ และเวลาพนักงานมากขึ้น มันคุ้มค่าของพรีเมี่ยม

6. อุปกรณ์และบริการคุณภาพสูงขึ้น

เนื่องจากศูนย์ฉุกเฉินมักจะต้องรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่ใหญ่ที่สุดและเลวร้ายที่สุดที่โรงพยาบาลอื่นไม่สามารถรับมือได้ อุปกรณ์ไฮเทคและความรู้ความชำนาญที่เทียบเท่าจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทุกอย่างตั้งแต่กรงออกซิเจนและปั๊มฉีด การเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญและการให้คำปรึกษาด้านรังสีวิทยาฉุกเฉิน ทั้งหมดต้องการและสมควรได้รับป้ายราคาที่สูงขึ้นสำหรับบริการเหล่านี้ แม้ว่าคุณจะปรากฏตัวเพียงเที่ยงคืนเท่านั้นเพราะแมวของคุณไม่ยอมหยุดเกาตัวเอง.

ดังนั้นคุณสมบัติทั้งหกของสัตวแพทย์ ER ควรแปลเป็นสองเท่าและสามของราคาหรือไม่? คุณโทรออก

ดร.แพตตี้ คูลี่

_{รูปสำหรับวันนี้:"เอลเลียต" โดย แอนดรูว์ ซิสเซล}